สหราชอาณาจักรขยายเวลาของมาตการ safeguard ของผลิตภัณฑ์เหล็กออกไปอีก 2 ปี

05 กรกฎาคม 2567
สหราชอาณาจักรขยายเวลาของมาตการ safeguard ของผลิตภัณฑ์เหล็กออกไปอีก 2 ปี

Kemi Badenoch รัฐมนตรีกระทรวงธุรกิจและการค้าแห่งสหราชอาณาจักร (Department for Business and Trade) ได้ขยายมาตการ safeguard ของผลิตภัณฑ์เหล็กทั้งหมด 15 หมวด เป็นเวลา 2 ปีจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2026 กระทรวงธุรกิจและการค้า กล่าวเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน

หน่วยงานเยียวยาทางการค้าของสหราชอาณาจักร (The UK's Trade Remedies Authority (TRA)) เริ่มทบทวนการขยายเวลาของมาตรการ safeguard ของผลิตภัณฑ์เหล็กในเดือนกันยายน 2023 ซึ่งพิจารณาว่าความเสียหายจะเกิดขึ้นกับผู้ผลิตเหล็กในสหราชอาณาจักรอีกหรือไม่ หากยกเลิกมาตรการดังกล่าว

ทาง TRA ได้เสนอเมื่อเดือนเมษายนว่า ควรขยายมาตรการดังกล่าวสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 15 หมวดหมู่ ออกไปอีก 2 ปี เนื่องจากพบว่ามีแนวโน้มว่าผู้ผลิตในสหราชอาณาจักรจะได้รับความเสียหายในทุกหมวดหมู่หากมาตรการดังกล่าวหมดอายุ

กระทรวงได้กล่าวว่า ทาง Badenoch ได้ตัดสินใจหลังจากพิจารณาข้อมูลหลักฐานของทาง TRA และประเด็นอื่นๆ ในวงกว้างเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยระบุว่าแม้ว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะแสดงให้เห็นถึงการละทิ้งพันธกรณีของสหราชอาณาจักรภายใต้ข้อตกลงองค์การการค้าโลกที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสมดุลกับหลักฐานของ TRA และผลประโยชน์สาธารณะของสหราชอาณาจักร โดยการขยายเวลาของสหราชอาณาจักรเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่สหภาพยุโรปตัดสินใจขยายมาตรการ safeguard ของเหล็กออกไปอีก 2 ปี

Badenoch ยังได้ตัดสินใจขยายระยะเวลาในการระงับใช้มาตรการดังกล่าวกับเหล็กของยูเครนออกไป ในวันเดียวกัน เนื่องจากเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะของสหราชอาณาจักร ทางกระทรวงดังกล่าวได้กล่าวว่า “การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าการนำเข้าเหล็กของยูเครนจะไม่อยู่ภายใต้โควต้าของมาตรการ safeguard และอากรเพิ่มเติม ซึ่งสอดคล้องกับความมุ่งมั่นของสหราชอาณาจักรในการสนับสนุนยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย”

สมาคมเหล็กแห่งสหราชอาณาจักร (UK steel association) ยินดีกับการขยายเวลามาตรการ safeguard โดยกล่าวว่ามันเป็นความสำคัญอย่างยิ่ง “นี่เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญสำหรับภาคอุตสาหกรรมเหล็กของสหราชอาณาจักร มาตรการ Safeguard เป็นเครื่องมือเยียวยาทางการค้าที่สำคัญ ซึ่งใช้เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากการเบี่ยงเบนทางการค้าและการบิดเบือนทางการค้าระหว่างประเทศ” UK Steel กล่าวว่า “ภาษีมาตรา 232 ในยุคของ Trump ยังคงเบี่ยงเบนการค้าไปยังตลาดที่เปิดกว้าง ในขณะที่กำลังการผลิตเหล็กที่ล้นตลาดทั่วโลกถึง 60 เท่าของตลาดสหราชอาณาจักรยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางต้นทุนที่สูงและความต้องการเหล็กที่อ่อนแอ”

รายงานกล่าวเสริมว่า “การป้องกันการค้าที่แข็งแกร่งถือเป็นหัวใจสำคัญของตลาดเหล็กที่มีการดำเนินงานอย่างดี โดยแก้ไขการบิดเบือนทางการค้าในที่อื่นๆ และรับประกันการแข่งขันที่ยุติธรรม”

UK Steel กล่าวว่าตอนนี้โฟกัสจะต้องเปลี่ยนไปหากเกินจากปี 2026 เนื่องจากไม่สามารถขยายมาตรการป้องกันได้เกินวันที่ 30 มิถุนายน 2026 ตามกฎของ WTO และปัญหาในภาคส่วนนี้จะไม่หายไปพร้อมกับกำลังการผลิตเหล็กทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น สมาคมฯ กล่าวว่ากำลังดำเนินการสร้างโมเดลใหม่ๆ เพื่อการเยียวยาในอนาคต

"แม้ว่าการขยายมาตรการ safeguards ชองเหล็กในปัจจุบันช่วยให้เรามีเวลาพอสมควร แต่เราตระหนักดีว่าความท้าทายทางการค้าที่เราเผชิญจะยังคงดำเนินต่อไปหลังจากปี 2026 ที่กำลังการผลิตส่วนเกินทั่วโลกกำลังเข้าใกล้ระดับที่ไม่ยั่งยืนอย่างรวดเร็ว โดยได้แรงหนุนจากเงินอุดหนุนจากรัฐ และส่วนใหญ่มาจากเตาถลุงเหล็กที่มีการปล่อยมลพิษสูง (high-emission blast furnaces)" Gareth Stace (The UK Steel Director General) กล่าว

Gareth Stace กล่าวว่า การจัดการกับกำลังการผลิตส่วนเกินไม่ได้เป็นเพียงวัตถุประสงค์ทางการค้าเท่านั้น แต่ยังควรเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การรั่วไหลของคาร์บอนด้วย "หน่วยงานของสหราชอาณาจักรและภาคอุตสาหกรรมเหล็กต้องประเมินและปรับปรุงนโยบายการค้า สร้างพันธมิตรกับประเทศที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน รวมถึงต่อรองกับระบบที่มีเงื่อนไข เพื่อให้เป็นประโยชน์กับสหราชอาณาจักร โดย UK Steel มุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับทางการและ TRA เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์หลังมาตรการ Safeguard ในอนาคต"  Gareth Stace กล่าว


แหล่งที่มา : S&P Global Commodity Insights

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

The information in the above report, publication and website has been obtained from sources believed to be reliable. However, Iron & Steel Institute of Thailand does not guarantee the accuracy, adequacy or completeness of the information. Any opinions or forecasts regarding future events may differ from actual events or results. In addition, Iron & Steel Institute of Thailand reserves the right to make changes and corrections to the information, including any opinions or forecasts, at any time without notice.